ใบหน้าของชายหนุ่มและหญิงสาวที่มาพร้อม’ชูเฟิง’ เต็มไปด้วยความตกตะลึง แต่มันบ่งบอกได้ถึงความกลัวเสียมากกว่า หลังจากที่พวกเข้ามาเกี่ยวข้องกับ’ชูเฟิง’ พวกเขาอาจติดร่างแหไปด้วยก็เป็นได้
“น้องชาย !! เจ้าจะปล่อยเขาไปได้มั้ย ?”สมาชิกอีกคนของตระกูลเจี่ยไม่ได้โจมตีมาที่’ชูเฟิง’ เขากล่าวในเชิงขอร้องไปที่’ชูเฟิง’ เหตุผลง่ายๆ ที่เขาไม่ได้โจมตี’ชูเฟิง’ นั่นเพราะว่าหลังจากที่เขาได้เห็นความแข็งแกร่งของ’ชูเฟิง’ และวิธีการของเขาแล้วนั้น เขายังไม่อยากที่จะตายหากต้องเข้าโจมตี’ชูเฟิง’
“ถ้าข้าปล่อยเขาไป เขาจะไม่กลับมาสร้างปัญหาให้ข้ารึ ?”‘ชูเฟิง’กล่าวถามขณะยิ้มอย่างเย็นชา
“น้องชาย !! ข้าเจี่ยฉวน ขอสาบานต่อหน้าสวรรค์ว่า ข้าจะลืมเรื่องในวันนี้ให้เหมือนกับไม่เคยเกิดขึ้น หากน้องชายของข้าเจี่ยเฮง กล้าที่จะสร้างปัญหาให้เจ้า ข้าจะเป็นคนสั่งสอนเขาเอง”ชายหนุ่นยกมือสูงขึ้นในเชิงคาระวะ พร้อมทั้งให้คำสัตย์ ขณะนั้นเขาได้แผ่ออร่าพลังของเขาออกมา เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับ 6 ขั้นกำเนิดวิญญาณ’ชูเฟิง’ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาอยู่สถานการณ์ที่ยากลำบาก ในตอนแรกนั้นเขาวางแผนที่จะฆ่าทั้ง 2 คน และชิงเอาสมบัติของพวกเขา
หากพวกเขาหนีจากการตรวจจับพลังวิญญาณของ’ชูเฟิง’ไปได้นั้น แน่นอนว่าพวกเขาต้องมีสมบัติบางอย่างที่ใช้เพื่อการลบร่องรอยพลังวิญญาณ’ชูเฟิง’เห็นถึงความจริงใจภายในแววตาของ’เจี่ยฉวน’ เหตุผลที่เขาแผ่ออร่าพลังของเขาออกมา ไม่ใช่เพื่อต้องการแสดงความแข็งแกร่งหรือต่อต้าน แต่มันเป็นการแสดงออกเพื่อให้’ชูเฟิง’รับรู้ถึงพื้นฐานของเขา
“น้องชาย !! เหตุเพราะว่าน้องชายของข้าเจี่ยเฮง พูดจาหยาบคายกับเจ้าก่อน โปรดรับสิ่งนี้ไว้เพื่อเป็นการไถ่โทษ”‘เจี่ยฉวน’หยิบถึงจักรวาลของเขาออก และคว้าเอาถุงจักรวาลของ’เจี่ยเฮง’ที่เอาออก และเอาเข็มทิศวิญญาณออกมา จากนั้นเขาจึงส่งถุงจักรวาลให้แก่’ชูเฟิง’ ‘ชูเฟิง’รับถุงจักรวาลมา หลังจากตรวจสอบถายใน เขาพบว่ามันมีลูกแก้วแก่นแท้วิญญาณอยู่หลายสิบลูก และมียาต่างๆ ที่ใช้ในการรักษา
สิ่งเหล่านี้มีราคาแพงมาก แต่ว่ามันไม่มากเกินไปสำหรับ’ชูเฟิง’ อย่างไรก็ตาม การกระทำของ’เจี่ยฉวน’ไม่ได้ทำให้’ชูเฟิง’กราดเกรี้ยว เพราะ’ชูเฟิง’ชอบคนที่คล้อยตามเขาโดยที่ไม่ต้องบีบบังคับ ‘ชูเฟิง’เอาของทั้งหมดจากถุงจักรวาลทั้งสอง ย้ายมาใส่ไว้ในถุงจักรวาลข้างเอวของเขา
จากนั้นจึงส่งถุงจักรวาลที่ว่างเปล่าทั้งสองถุงไปให้’เจี่ยฉวน’ และดึง’เจี่ยงเฮง’ขึ้นมาพร้อมทั้งกล่าวว่า
“เจ้ามีพี่ชายที่ดี”หลังจากหลุดออกมา เจี่ยเฮงพยายามโจมตี’ชูเฟิง’ด้วยความบ้าคลั่ง
“ข้าจะฆ่าเจ้า !!”
***** เปรี้ยง *****
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่’ชูเฟิง’จะขยับ เป็น’เจี่ยฉวน’ที่ตบ’เจี่ยเฮง’ลงไปกองกับพื้น พร้อมทั้งตำหนิด้วยความโกรธ
“เจ้ายังสูญเสียไม่พออีกรึ !!”พอเขาพูดจบ เขาเตะไปที่’เจี่ยเฮง’ทำให้’เจี่ยเฮง’กระไปไกลกว่าสิบสองเมตร แม้จะโกรธแต่’เจี่ยเฮง’ก็ไม่กล้าที่จะต่อต้าน’เจี่ยฉวน’ หลังจากเขาลุกขึ้นมานั้น ไม่ได้พูดอะไรออกมาและถลึงตาใส่’ชูเฟิง’ ก่อนจะเดินจากไป
“น้องชายชูเฟิง ขอบคุณเจ้ามากที่ไว้หน้าข้า แม้วันนี้อาจจะกล่าวไม่ได้ว่าไม่มีความขัดแย้ง แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราเป็นศัตรูกัน ในภายภาคหน้า หากเราพบกันโดยบังเอิญข้าจะเชิญเจ้าไปดื่มเบียร์ด้วยกัน”‘เจี่ยฉวน’กล่าวขณะเขากุมมือของ’ชูเฟิง’ จากนั้นจึงก้าวออกมาตามน้องชายของเขา
“ชูเฟิง !! ท่านมีปัญหาแน่”หลังจากที่พี่น้องสองคนลับหายไปจากสายตา ทั้งสองคนข้างๆ’ชูเฟิง’เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“ท่านไม่ควรปล่อยพวกเขาไปเลย ราวกับการปล่อยเสือเข้าป่า”หญิงสาวกล่าวพร้อมทั้งยิ้มอย่างมีเสน่ห์มาที่’ชูเฟิง’
“ถ้าเจ้ากลัว เจ้าสามารถเลือกที่จะกลับไปได้ ข้าจะเป็นคนบอกเส้นทางกลับเอง”‘ชูเฟิง’กล่าวพร้อมยิ้มพลาง
“เรา……….”ทั้งสองคนจมลงไปในความเงียบ แม้’ชูเฟิง’จะสร้างศัตรูตัวฉกาจ และพวกเขาก็หวาดกลัวอย่างมาก แต่ผลประโยชน์ของการทดสอบขั้นที่สองก็เป็นสิ่งที่ดึงดูดมากกว่า ตราบใดที่พวกเขาผ่านขั้นที่สอง พวกเขาสามารถประหยัดรายจ่ายในการซื้อชุดคลุมสีขาวได้อย่างมาก ไม่ว่าสำหรับผู้ใดที่สามารถจ่ายราคาขนาดนี้ได่ก็นับว่าไม่ธรรมดาเลย
“หากว่าเจ้าไม่กลัว ข้าจะเป็นคนรับรองความปลอดภัยของเจ้า ตลอดการเวลาภายในป่านี้”หลังจากกล่าวจบ ‘ชูเฟิง’ก็ก้าวไปข้างหน้า โดยมีทั้งสองคนติดตามเขาไปด้านหลัง ‘ชูเฟิง’ไม่เข้าใจตรรกะของคำว่าปล่อยเสือเข้าป่า โดยเฉพาะหลังจากที่เขารู้ว่าตระกูลเจี่ย มีวิธีการบางอย่างที่ใช้ในการปกปิดร่องรอย เขาจึงเดินทางต่อด้วยความรัดกุมและรอบคอบ
หลังจากนั้น พวกเขาพบกับสมาชิกของตระกูลเจี่ยเพียงไม่กี่คน แต่ทุกคนที่พบต่างรีบหลบหนีจากกลุ่มของ’ชูเฟิง’ และกลัวว่าจะถูก’ชูเฟิง’ติดตาม จากการเดินอยู่หลายชั่วโมง พระอาทิตย์ก็เริ่มคล้อยต่ำลงไปยังทิศตะวันตก พวกเขาก็เดินออกจากป่า และได้รับชุดคลุมสีขาวพร้อมทั้งเมล็ดของผลจิตวิญญาณ
“สิ่งนี้จะสามารถช่วยเจ้าได้จริงหรือ ต้าน ต้าน !?”‘ชูเฟิง’มองเมล็ดของผลจิตวิญญาณในมือของเขา มันเป็นเมล็ดสีเขียวขนาดเท่าเม็ดอัลมอนด์ ‘ชูเฟิง’มองด้วยความสงสัย แม้มันจะมีความผันผวนของจิตวิญญาณ แต่รู้สึกได้เลยว่าดูอ่อนแอ
อย่างไรก็ตาม เขามองออกไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เขามองไปยังหอคอยอสูรฟ้า และคิดถึงความเป็นไปได้ที่จะทำให้เมล็ดของผลจิตวิญญาณนี้เติบโต จากนั้นเขาจึงก้าวไปยังหอคอยอสูรฟ้าด้วยความมุ่งมั่นและมั่นคง
เมื่อ’ชูเฟิง’และอีกสองคนออกมาจากป่า ในเวลาเดียวกันนั้นก็มีพลังดึงดูดออกมาจากหอคอยโบราณ มันเป็นหอคอยที่ไม่สูงมากมีเพียงหกชั้นเท่านั้น แต่มันกลับมีพลังอำนาจที่น่าสนใจแผ่ออกมา ลักษณะภายนอกของหอคอยโบราณนั้นค่อนข้างแปลก มันดูราวกับฟันของสัตว์ร้ายขนาดยักษ์ ที่โผล่ขึ้นมาบนพื้นดิน
ภายใต้เงาขอดวงอาทิตย์ตัวหอคอยเป็นสีดำทมิฬ และมีออร่าเพลิงสีแดงกระจายออกมา ดูราวกับหัวใจสีดำที่ชุ่มไปด้วยเลือดสีแดงแปลกตา มันให้ความรู้สึกไม่มากไม่น้อย ถึงความน่าเกรงขาม และสวยงามของหอคอยโบราณนี้ มันมีพลังที่น่าหลงใหลมันจึงเป็นหอคอยในตำนาน หอคอยอสูรฟ้า
อย่างไรก็ตาม พวกเขามีเวลาอีกมากก่อนที่หอคอยจะเปิด บุคคลที่ต้องการจะเข้าสู่การทดสอบขั้นที่สามนั้น พวกเขาต้องมารอที่ลานกว้างด้านหน้าของหอคอย เพื่อรอให้หอคอยเปิดเพื่อจะได้เข้าไป
“ข้าอยากเข้าไปภายในหอคอยอสูรฟ้าจริงๆ”ใบหน้าของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความปิติและโหยหา
“เจ้าอย่าได้คิดฝันเฟื่อง !! หลังจากที่เจ้าเข้าไป แรงกดดันมหาศาลของชั้นหอคอยนั้น สามารถฆ่าเจ้าได้ภายในทันที”หญิงสาวแดกดันเขาขึ้นมา โดยไม่สนใจความรู้สึกของชายหนุ่ม ชายหนุ่มไม่ได้ตอบโต้หญิงสาว เพราะที่นางกล่าวนั้นเป็นเรื่องจริง ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณธรรมดาๆ ไม่สามารถเข้าสู่หอคอยได้ และเขาก็ไม่ได้ใส่ใจที่จะเข้าไปภายในหอยอสูรฟ้านี้
“พี่ชูเฟิง ข้าขอให้ท่านโชคดีไปถึงชั้นที่สาม ข้าได้ยินมาว่าที่ชั้นสามนั้น จะทำให้เมล็ดของผลจิตวิญญาณ เจริญเติบโตแตกกิ่งก้านและใบ ในเวลานั้นเมล็ดของผลจิตวิญญาณจะมีการพัฒนาอย่างเด่นชัด”หญิงสาวกล่าวขณะหยิบเมล็ดของนางให้แก่’ชูเฟิง’
“พี่ชายชูเฟิง ข้ารู้ว่าเจ้าสามารถทำมันได้ ข้าจะรอพบเจ้าที่ด้านนอก หากเมื่อเจ้าทำสำเร็จแล้วนั้น ข้าจะพาเจ้าไปเลี้ยงอาหารมื้อใหญ่”ชายหนุ่มกล่าวขึ้น และหยิบเมล็ดของเขาส่งให้’ชูเฟิง’ ขณะเตรียมจะไปพักผ่อนที่ด้านนอกของนิกายโลกวิญญาณ แม้ว่าเมล็ดของผลจิตวิญญาณนั้นมีค่ามาก
แต่สำหรับ’ชูเฟิง’ที่ช่วยให้พวกเขาได้รับเสื้อคลุมสีขาว ที่มีมูลค่ากว่าหนึ่งพันลูกแก้วกำเนิดวิญญาณ จึงเป็นธรรมดาที่พวกเขาจะตอบแทน’ชูเฟิง’ ด้วยเหตุที่ว่าพวกเขาไม่ได้สนใจในเมล็ดของผลจิตวิญญาณ พวกเขาจึงมอบมันให้แก่’ชูเฟิง’
หลังจากนั้นชายหนุ่มและหญิงสาวก็เดินมาส่ง’ชูเฟิง’ที่ลานกว้าง ทุกคนที่ต้องการเข้าสู่หอคอยกำลังเฝ้ารอ เมื่อท้องฟ้าเริ่มมืด นั่นคือเวลาที่หอคอยจะเปิด เมื่อถึงเวลานั้นทุกคนก็จะเข้าสู่หอคอย
ในขณะที่’ชูเฟิง’กำลังก้าวไปข้างหน้า ได้มีสายตาคู่หนึ่งจ้องมาที่เขาด้วยเจตนาหมายที่จะสังหาร !!!
แปลโดย คุณ#
ความใจดีอาจจะทำให้เกิดเรื่องเหมือนในตอนหน้านี้แหละคับ
ที่มา: