‘ชูเฟิง’รู้สึกตื่นเต้นยินดี เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงทางเดินลับที่ก่อตัวขึ้นมาด้วยแรงดันวิญญาณ ตราบใดที่เขาสามารถแก้ปริศนาได้ เขาก็จะสามารถเข้าสู่ทางเดินลับนั้นได้
“แปลกจิง !? ก็ตอนนี้ข้าอยู่ในจุดสูงสุดของหอคอยแล้วนี่ ทำไม่ถึงยังมีแรงดันวิญญาณที่ก่อตัวเป็นทางเดินอยู่อีก อาจเป็นไปได้ว่าหอคอยนี้มันมี 7 ชั้น !! หรือทางเดินนั่นจะนำพาไปยังสถานที่อื่นกัน ??”ขณะนั่นเขาได้เข้าสู่สภาวะสงบนิ่ง ตั้งมั่นในสมาธิอย่างแน่วแน่ เขารู้สึกว่าแรงดันวิญญาณที่ก่อตัวเป็นทางเดินที่อยู่เหนือเขานั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะสามารถค้นพบและผ่านมันเข้าไปได้ เนื่องจากเขาอยู่ที่นี่มาสามวันแล้ว แต่เขาไม่สามารถสัมผัสถึงมันได้เลยในก่อนหน้านี้
ดังนั้น อาจกล่าวได้ว่าทางเดินแรงดันวิญญาณนี้อาจก่อต่อตัวขึ้นมาเพื้อ’ชูเฟิง’โดยเฉพาะ ขณะนั้น ‘ชูเฟิง’กำลังสงสัยว่า ทางเดินวิญญาณนี้อาจเป็นกับดักสำหรับเขา
“จริงซิ !! คิดไปก็เสียเวลาเปล่า ก่อนนั้นต้านต้านเคยกล่าวว่านางอยู่มานาน บางทีหากนางตื่นขึ้น นางอาจจะรู้ความลับของหอคอยอสูรฟ้าก็เป็นได้ !!”‘ชูเฟิง’ไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย เขาเลือกผลจิตวิญญาณออกมาหนึ่งผล หลังจากเคี้ยวเพียงไม่กี่ครั้ง เขาก็กลืนมันลงไป ‘ชูเฟิง’รับรู้ได้ว่ารสชาติของผลจิตวิญญาณนั้นยอดเยี่ยมมาก มันเป็นผลไม้ที่อร่อยที่สุดตั้งแต่เขาเคยกินผลไม้มา
“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ในเมื่อข้ามีเผลจิตวิญญาณถึง 3 ผล ไหนมาลองดูกันซิว่า มันจำมีพลังอำนาจเพียงใดหลังจากที่ข้ากินมัน”
อย่างไรก็ตาม เขาไม่เข้าใจเหตุผลว่าทำไมผลจิตวิญญาณถึงได้มีรสชาติที่อร่อยเลยแม้แต่น้อย จริงๆ แล้วนั้น รสชาติของผลจิตวิญญาณนี้ไม่ได้อร่อย แต่เพราะว่า’ชูเฟิง’ไม่ได้ข้าวเลยสักเม็ดเดียว หรือแม้แต่น้ำสักหยดเป็นเวลานาน
อย่างไรก็ตาม ในชั่วระยะเวลาสั้นๆ ที่ผลจิตวิญญาณเข้าถึงช่วงท้องของเขา ‘ชูเฟิง’รู้สึกได้ถึงคลื่นพลังงานสองสายอย่างรวดเร็ว คลื่นพลังสายหนึ่งพุ่งขึ้นสู่สมอง และรวมตัวกับพลังวิญญิาณของเขาในทันที ขณะนั้นอำนาจพลังวิญญาณของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นหลายระดับ
คลื่นพลังงานยังคงเคลื่อยเข้าสู่สมองของเขาอย่างต่อเนื่อง แต่มันไม่ได้ผสานเข้ากับพลังวิญญาณของเขา มันทะลวงเข้าสู่โลกวิญญาณของเขาแทน
ในขณะนั้น
“นี่มัน….พลังออร่าของต้านต้าน นางยังไม่ตายจริงๆ !!”‘ชูเฟิง’รู้สึกตื่นเต้นยิ่งขึ้น เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงพลังออร่าของต้านต้าน และนางกำลังดูดซับพลังงานของผลจิตวิญญาณอย่างต่อเนื่อง ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ พลังออร่าของ’ต้านต้าน’ชัดเข้มข้นและแข็งแกร่งขึ้นอย่างชัดเจน ‘ชูเฟิง’สัมผัสได้ว่า ร่างกายของ’ต้านต้าน’กำลังฟื้นฟูภายในโลกวิญญาณของเขาอย่างช้าๆ
“นี่มันสุดยอดจริง ผลจิตวิญญาณช่างอัศจรรย์ยิ่งนัก”‘ชูเฟิง’กล่าวออกมาขณะที่เขา หยิบเอาผลจิตวิญญาณที่เหลือขึ้นมา และกินพวกมันลงไปในทันที
หลังจากที่เขากินผลจิตวิญญาณเข้าไปแล้วนั้น เขาได้เข้าสู่ภายในโลกวิญญาณของเขา เพื่อดูถึงผลลัพธ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น
“งดงามยิ่งนัก !!”ในขณะนั้น ‘ชูเฟิง’สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนถึง กลุ่มหมอกสีเขียวที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ ภายในโลกวิญญาณของเขา
กลุ่มหมอกนี้ช่างสวยงาม มันดูราวกับแสงของดวงอาทิตย์ยามอัสดง แต่แสงสีของมันเป็นสีเขียวจางๆ และในขณะนั้น พวกมันกำลังรวมตัวเข้ากับพื้นที่ของโลกวิญญาณ
เพียงเวลาไม่นาน แสงสีเขียวที่เคยห้อมล้อมทั่วบริเวณเหล่านั้น ตอนนี้พวกมันค่อยๆ จางหายไป และสภาวะแวดล้อมของโลกวิญญาณก็กลับสู่สภาพเดิม
“คิดอะไรอยู่ !! เจ้าเหม่อลอยไปถึงไหนกัน”‘ชูเฟิง’รู้สึกตกใจเล็กน้อย เมื่อเขาได้ยินเสียงที่ใสราวกับเสียงของระฆังแก้ว ดังขึ้นมาทั่วบริเวณของโลกวิญญาณ
“ต้านต้าน !! นี่มันเสียงของต้านต้าน !!”ร่างกายของ’ชูเฟิง’สั่นสะท้านขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น ใบหน้าของเขาพลันปรากฏรอยยิ้มพราวออกมา ตั้งแต่เข้าก้าวเข้าสู่โลกวิญญาณ เขาก็รู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก
ในส่วนกลางของพื้นที่โลกวิญญาณ ปรากฏร่างของต้านต้านขึ้น ชุดกระโปรงของนางยังคงถูกถักทอด้วยขนสีดำ เผยให้เห็นไหล่ที่ขาวเรียบเนียนด้านบน ปากเป็นกระจับได้รูป และขาขาวที่ยาวตรง
รูปลักษณ์ของนางไม่ได้เปลี่ยนไป แต่ยิ่งน่ารักขึ้นกว่าเก่า บนใบหน้าที่อ่อนหวานประดับไปด้วยดวงตาคู่งาม หน้าอกทั้งคู่โค้งมนราวกับพระจันทร์เสี้ยว นางกำลังมองมายังชูเฟิงด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างชื่นบาน
“เจ้านี่มันช่างน่าประทับใจจริงๆ ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะมีผลจิตวิญญาณ ใครเป็นคนบอกเจ้ากัน ว่าผลจิตวิญญาณสามารถปลุกข้าได้”‘ต้านต้าน’ถามพลางหัวเราะคิกคักในลำคอ
อย่างไรก็ตาม ‘ชูเฟิง’ไม่ได้กล่าวตอบแต่อย่างใด เขาพุ่งตัวมาข้างหน้าราวหัวลูกศร และหยุดอยู่หน้าของ’ต้านต้าน’ เขากางแขนของเขาออกและสวมกอดนางอย่างแนบแน่น พร้อมทั้งกล่าวว่า
“คราวหน้าอย่าทำอะไรบ้าบิ่นเช่นนี้อีก !! รู้มั้ยว่าข้าเป็นห่วง”ในขณะที่ถูก’ชูเฟิง’สวมกอดนั้น ใบหน้าที่ขาวเนียนของนาง พลันเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อด้วยความเขิลอาย
อย่างไรก็ตาม นางไม่ได้ผลัก’ชูเฟิง’ออกแต่อย่างใด ด้วยพลังของนางนั้น หากนางคิดจะหลบการสวมกอดของ’ชูเฟิง’นั้น นางย่อมทำได้อย่างง่ายดาย
“พอแล้ว !! แม้จะเพียงเล็กน้อย แต่เจ้าก็ต้องระวังให้มาก ไม่เช่นนั้นเจ้าอาจจะได้เจอดีจากข้าได้”‘ต้านต้าน’กล่าวตอบพร้อมหัวเราะเบาๆ
ในขณะนั้น ‘ชูเฟิง’ก็คิดได้ว่า เขาทำเกินไปจริงๆ เขาแสดงสีหน้าไม่พอใจในตัวเองออกมาบนใบหน้า เขาคลายการสวมกอดจากนาง พร้อมทั้งยิ้มและกล่าวขึ้นว่า
“ต้านต้าน !! ท่านเคยได้ยินชื่อ หอคอยอสูรฟ้า หรือไม่”เมื่อได้ยินคำกล่าวนี้ ใบหน้าของนางเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
“หอคอยอสูรฟ้า !? เจ้าเคยได้ยินเรื่องหอคอยอสูรฟ้าด้วยงั้นรึ !?”
“ข้าไม่เคยได้ยินหรอก !! แต่ตอนนี้เราอยู่บนชั้นสูงสุดของหอคอยอสูรฟ้า”‘ชูเฟิง’กล่าวตอบ
“จริงเหรอ !? ไหนรีบๆ ออกไปดูซิ”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของนางก็เต็มด้วยความสุข นางกล่าวออกมาพร้อมกระโดดขึ้นลงด้วยความน่ารัก
‘ชูเฟิง’ปฏิบัติอย่างรวดเร็ว เขารีบออกจากโลกวญญาณของเขา และกลับสู่สภาวะปกติ เขากวาดสายตามองไปรอบๆ เพื่อที่จะให้’ต้านต้าน’ได้มองเห็นสภาพแวดล้อมต่างๆ
“จริงๆ ด้วย !! ที่นี่คือหอคอยอสูรฟ้า ฮ่าๆ !! ที่นี่มันตั้งอยู่ที่ใดในเก้าอาณาจักร”นางกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงทร่เปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น
“ที่นี่ตั้งอยู่ภายในอาณาจักรจิตวิญญาณ ภายในเก้าอาณาจักร ต้านต้าน !! หอคอยอสูรฟ้านี่มีอะไรที่พิเศษเกี่ยวกับท่านอย่างนั้นเหรอ”‘ชูเฟิง’กล่าวตอบ เขารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะเขาคิดว่า ‘ต้านต้าน’ต้องรู้อะไรเกี่ยวกับหอคอยอสูรฟ้าอย่างแน่นอน
“ข้าไม่เคยคิดเลยว่า ภายในเก้าอาณาจักรจะมีหอคอยอสูรฟ้า ดูเหมือนว่ามันจะไม่ง่ายเลยที่จะเข้ามาถึงที่นี่ และจำเป็นต้องมีผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณที่แข็งแกร่งคอยปกป้องมัน”‘ต้านต้าน’อธิบาย
“ชูเฟิง เจ้าต้องรู้ก่อนว่า หอคอยอสูรฟ้านี่ ถูกสร้างขึ้นเพื่อปิดผนึก”
“อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีไว้เพื่อใช้ปิดผนึกสัตว์อสูรที่น่ากลัวแต่อย่างใด แต่มันมีไว้เพื่อปิดผนึกสมบัติที่ล้ำค่าอย่างยิ่ง”
“สมบัติล้ำค่าอย่างนั่นเหรอ !?”‘ชูเฟิง’ถามขึ้น
“ที่นี่ชั้นที่เท่าไร”
“ชั้นที่ 6”
“ไม่ใช่ !! ที่ถูกต้องสำหรับหอคอยอสูรฟ้านั้น อย่างน้อยๆ ต้องมีอย่างน้อยเจ็ดชั้น ไม่ใช่หกชั้น เจ้าลองค้นหาดูว่ามีทางเดินที่ก่อตัวจากแรงดันวิญญาณหรือไม่ !!”
“ใช่แล้ว มันมีทางเดินที่ก่อตัวขึ้นจากแรงดันวิญญาณเป็นทางขึ้น ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าหอคอยอสูรนี้มีเจ็ดชั้น”
“แน่นอน ถ้าข้าคิดไม่ผิด สมบัติล้ำค่าจะต้องถูกปิดผนึกอยู่บนชั้นถัดไปของหอคอยอสูรฟ้าแน่ๆ
ผู้แปล โดยคุณ#
สมบัติ ? จะได้หรือไม่ได้ จะได้หรือไม่ได้ แล้วมันเป็นสมบัติอะไร ??? อาวุธ ??? เกราะ ??? ผ้าคลุม ??? โอสถ ??? หรือว่าจะ . . . . . . . . .
ที่มา: