” รางวัลอะไร ? “มีคนถามอย่างสงสัย
“พี่สาวซูรู่จะให้ร่างกายของนาง”มีบางคนพูดอย่างหน้าไม่อาย
ถึงแม้ว่า ‘ซูรู่’ เป็นผู้อาวุโส อายุเธอแค่ 20 ปี เทียบกับคนหัวโบราณคนอื่นๆ เธอเป็นคนง่ายๆ หลายคนจึงไม่กังวลที่พวกเขาพูด เช่นนั้น
‘ซูรู่’ แค่ส่งยิ้มที่มีเสน่ห์เพื่อเป็นการตอบสนองต่อความคิดของฝูงชน เธอยกนิ้ว 5 นิ้วบางๆ ขึ้นมา แล้วกล่าวว่า “หญ้าวิญญาณศักสิทธ์ ”
“อะไรนะ 5 ครั้ง? 5 หญ้าวิญญาณฯ เฟ้ย”กับคำพูดเหล่านั้น สนามเต็มไปด้วยความโกลาหล ไม่มีใครสามารถสงบนิ่งได้ หญ้าวิญญาณฯ ที่แสนล้ำค่า แม้กระทั่งตะกูล ชู สามารถให้เพียงหนึ่งชิ้นต่อหนึ่งปี คนทั่วไป หญ้าวิญญาณฯ เป็นสมบัติอันประมาณค่ามิได้ บางคนนั้นก็ไม่เคยเห็นมันมาก่อน
“ข้าไม่ได้ฟังผิดใช่มั้ย รางวัลคือ หญ้าวิญญาณฯ 5 ชิ้น “
แต่โรงเรียนมังกรสีฟ้าให้ตั้ง 5 ต้น มันเป็นสิ่งล่อใจเหล่าลูกศิษย์จำนวนมาก แต่สำหรับคนส่วนใหญ่ พวกเขาเหล่านั้นไม่ได้หวังว่าจะได้รับมันเพราะพวกเขารู้ว่า พวกเขาไม่มีโอกาสในการได้รับหญ้าวิญญาณฯ
อย่างไรก็ตาม ก็มีคนตั้งใจจะผ่านการทดสอบเป็นคนแรก พวกเขามีความกระตือรือร้นที่จะลอง มันทำให้พวกเขาตื่นเต้น
‘ซูรู่’ พยักหน้าด้วยความพึงพอใจเมื่อเธอเห็นความต้องการของศิษย์ ‘ซูรู่’ โบกมือมือของเธอ
ทันใดนั้นข้างหลังเธอ ก็ส่งเสียงครืน ประตูหลายบาน ค่อยๆ เปิด
“พวกเจ้ารออะไรอยู่ ? พวกเจ้าไม่อยากจะผ่านการทดสอบงั้นเหรอ”‘ซูรู่’ ยิ้ม ขณะที่เธอมองไปที่เหล่าศิษย์
” ไปได้ ~ ~ ~ ~ ~ “ตอนนั้นเสียงเชียร์ก็ดังขึ้น เหล่าลูกศิษย์นับหมื่นวิ่งเข้าไปยังทางด้านประตูใหญ่ เหมือนกับฝูงหมาป่าที่จ้องจะล่าเหยือ
‘ชูเฟิง’ ไปพร้อมกับการไหลของผู้คน เขาถูกพลักไปข้างหน้า ในที่สุด พวกเขาก็เข้าไปในถ้ำลึก
ถ้ำนั้นลึกมาก ในนั้นมีแต่ความมืด การมองเห็นต่ำมาก คนที่รับรู้ถึงอันตรายของกับดัก พวกเขาจึงเริ่มระมัดระวัง
“ย๊ากก ! เพื่อหนังสือทักษะ ระดับ 4 และ 5 หญ้าวิญญาณศักสิทธ์ สู้ตายยย ~ ~ ~ “แน่นอน บางคนนั้นสนใจแต่ของรางวัลโดยไม่สนเรื่องกับดักเพื่อของรังวัลเขานั้นยอมเสี่่ยงตายที่จะไปต่อ พวกเขาเข้าไปในถ้ำโดยไม่คิดจะหันหลังกลับ แต่มีส่วนน้อยที่สละสิทธ์เพื่อรักษาชีวิต
* โอ้วววว*
แต่หลังจากไปข้างหน้าร้อยเมตร วู่วว!!! เสียงมาด้านหน้า เข็มสีเงินจำนวนนับไม่ถ้วนถูกยิงออกมาจากกำแพง และพุ่งใส่ฝูงคน
“อ้า ~~~~~~ “ทันใดนั้น เสียงร้องดังขึ้นมา สาวกที่วิ่งอยู่ด้านหน้าได้ถูกเข็มเงิน คนจำนวนมากกว่าครึ่งได้ล้มลงกับพื้น พวกเขาเหล่านั้นจะไม่ผ่านการทดสอบ
“โอ้ยยย ~ ~ ~ ~ ~ “
อย่างไรก็ตาม เหล่าศิษย์ยังคงไปข้างหน้า คนที่ไม่ได้รับบาดเจ็บยังคงไปต่อ พวกเขายังคงวิ่งลึกเข้าไปในถ้ำ
แม้ว่าเข็มเงินนั้นแข็งเเกร่ง มันเพียงแค่ทำให้ร่างกายอ่อนแรง ไม้ได้ทำให้ถึงแก่ชีวิต พวกเขารู้ว่าทั้งหมดมันเป็นเพียงกลไก ต่อให้เป็นศิษย์ที่ในมีพลังวิญญาณ ระดับ 3 ห้วงวิญญาณ
พวกเขาก็ไม่สามารถหลบได้ ตราบใดเท่าที่พวกเขาไม่ระมัดระวัง
พวกเขายังคงวิ่งไปในถ้ำลึก , สำหรับบางคนก็ใช้พลังวิญญาณปัดเข็มเงิน
ในสถานการณ์แบบนี้ พวกเขาจึงเกิดความสับสน แต่ยังมีเพียงคนบางคนที่วิ่งไปด้านหน้าอย่างไม่เกรงกลัวอันตราย นั้นคือ ‘หยางเถียน ยู’ และ ‘ต้วน ยูหยาน’
ต้องบอกว่าคนเหล่านั้น นั่นไม่ธรรมดา ขณะที่พวกเขาก้าวเข้าไปในพายุเข็มเงิน เขาต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก
บนพื้นนั้นมีกลไกกับดักฃ แต่ดูเหมือนพวกเขาไม่ได้หลบกลไกบนพื้น มันดูเหมือนว่าพวกเขานั้นวิ่งแข่งกันอยู่
‘ชูเฟิง’ ตามหลังพวกเขา เขาปรับพลังวิญญาณของเขาให้อยู่ใน ระดับ 3 ห้วงวิญญาณ เขาทำเพื่อเหตุผลสองข้อ
ประการแรก เขาไม่ต้องการที่จะเป็นจุดเด่น
ประการที่สอง สถานการณ์ของเขาพิเศษ เนื่องจากเทพสายฟ้า 9 สี จึงทำให้ระดับพลังวิญญาณของเขาพัฒนาได้รวดเร็วกว่าคนทั่วไป
ดังนั้นเขาไม่อยากแสดงพลังที่แท้จริงของเขาเพราะมันยังเร็วเกินไป นั่นคือ เหตุผลของเขา เขารอโอกาสที่เขาจะเอาชนะทุกคนเมื่อเขาทุกรังแก
” ‘ต้วน ยูหยวน’ เจ้าอายุก็มากแล้ว แต่เจ้าไม่สามารถเอาชนะเด็กอย่างข้าในการแข่งขัน เจ้าไม่คิดว่ามันน่าอาย ? “ในการวิ่งเวลาผ่านไปนิดหน่อย มีเพียงสองเงาที่อยู่ด้านหน้าพวกเขานั้นคือ ‘ต้วน ยูหยวน’ และ ‘หยางเทียนหยู’
“หืม เจ้าเด็กน้อย ในการต่อสู้ อายุไม่ใช่เรื่องสำคัญ . . . กับความเข็งแกร่ง ถ้าคุณต้องการที่จะอวด เจ้าก็เอาชนะข้าให้ได้สิ”
พวกเขาทั้งสองอยู่ในระดับ 4 ห้วงวิญญาณ หนึ่งในนั้นมีความสามารถพิเศษที่โดดเด่น แต่อีกหนึ่งนั้นมีประสบการณ์มาก พวกเขาทั้งสองค่อนข้างตึงเครียด ระหว่างพวกเขาที่มีความแข็งแกร่งและประสบการณ์
พวกเขารู้ว่า คนที่จะขัดขวางคือหนึ่งในสองคนนี้ พวกเขาเหมือนคู่แข่งพยายามที่จะเอาชนะซึ่งกันและกันเพื่อที่ของรางวัลจะตกเป็นของคนใดคนหนึ่ง
” ฟูว ~ “จู่ๆ สายลมก็ผัดผ่านด้านหน้าของพวกเขา
ทั้งสองคนประหลาดใจ พวกเขาจ้องมองอย่างใจจดใจจ่อแต่ก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร พวกเขาจึงชะลอความเร็ว ทันใดนั้นหมอกหนาแน่น ปรากฎด้านหน้าของพวกเขา
ในถ้ำก็มืดมากอยู่แล้ว ทั้งยังมีหมอกอีก การมองเห็นพวกเขานั้นแย่มาก มันก็ยากที่จะหลบกลไก พวกเขาต้องเพิ่มความระมัดระวังความปลอดภัย
” ได้โอกาสและ!!! “ขณะที่ทุกคนกำลังชะลอตัวลง ‘ชูเฟิง’ แอบดีใจ เขาเข้าไปข้างหน้าในหมอกหนาแล้วใช้พลังร่างกายทั้งหมดของเขาทำให้เป็นเหมือนลูกศรออกจากคันธนู พุ่งไปยังด้านหน้า
* ฟิ้ววว*
ตอนนั้น ด้วน ‘ยูหยวน’ กำลังตั้งอกตั้งใจหลบเข็มเงิน ทันใดนั้น เงาสีดำก็พุ่งผ่านเขาไปโดยไม่ให้เวลาเขาขัดขวาง ใครกันที่ผ่านเข้าไป
” มันคือใครกัน ? “มันทำให้ ‘ต้วน ยูหยวน’ รู้สึกช็อก เขาคิดว่านั้นคือ ‘หยางเทียน ยู’ ที่ผ่านเขาไป แต่เขาสังเกตว่า’หยางเทียน ยู’ อยู่ไม่ไกลจากหลังเขา เขาจึงเริ่มใช้ความคิดของเขา
คนที่มีความสามารถทุกคนยังคงอยู่ข้างหลังของ ‘ชูเฟิง’ ‘ชูเฟิง’ไม่ได้สนใจ เขาจึงเพิ่มความเร็วให้สูงสุด
เวลาผ่านไปยาวนาน เขาไม่รู้สึกถึงความเหนื่อยล้า ขุมพลังงานภายในร่างกายของเขาไม่มีที่สิ้นสุดที่จะใช้มันอย่างต่อเนื่อง พลังนั้นมาจากตันเถียนของเขา
ไม่เพียงแต่ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นความแข็งแรงของเขาก็เพิ่มขึ้น พลังการได้ยินและการมองเห็นของเขานั้นมีมากกว่าคนที่อยู่ในระดับเดียวกัน อย่างน้อยมันก็มากกว่า ‘ด่วน ยูหยาน’ และ ‘หยางเทียนหยู’
‘ชูเฟิง’ ไม่แปลกใจกับเหตุการณ์ เพราะ ร่างกายเขามีพลังลึกลับอยู่ในตัว
เขาได้เห็นความสามารถนี้เมื่อห้าปีที่แล้ว จากนั้นความสามารถต่างๆ ของเขาก็เพิ่มขึ้น มันให้เขามีความมั่นใจที่หาที่หาใดเปรียบ เพราะไม่มีใครสามารถเรียกตัวเองว่า อัจฉริยะ เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา
ขณะที่เขาวิ่งราวกับบิน ‘ชูเฟิง’ หลบกลไกและเข้าสู่ทางออกของถ้ำ เขามาถึงกลางห้องโถงกว้าง
สุดทางมีแท่นที่ทำมาจากหิน ด้านบนของหินมีสิ่งของล้ำค่า นั้นคือหนังสือทักษะระดับ 4 และ 5 หญ้าวิญญาณฯ
เมื่อ ‘ชูเฟิง’ เห็นของล้ำค่าบนนั้นความดีใจปรากฎบนใบหน้า อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้วิ่งเข้าไปเอา แต่เค้ามองที่ประตูศิลา ด้านข้างของสนามสอบ
” นั้นคือ สัตว์ในตำนานที่ดุร้าย ? “ปาก ‘ชูเฟิง’ โค้งขึ้น เขาประหลาดใจอย่างมาก
เขารู้ว่าการสอบนี้แค่เริ่มต้น แต่เขาไม่ได้คิดว่าต้องเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตที่ดุร้ายที่กระหายเลือดและโหดเหี้ยม
” อาวุโส ‘ซูรู่’ นี่มัน ไม่น่าเชื่อจริงๆ “ภายในห้องหินลึกลับในสนามสอบใต้ดินเขาจ้องแผ่นหิน ความประหลาดใจปรากฎบนใบหน้า
” ข้าดูแลที่นี่มานานหลายปี แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นลูกศิษย์ที่ผ่านการทดสอบที่รวดเร็วขนาดนี้ “
นั่นไม่ใช่ศิลาธรรมดา มันเป็นตัวบอกภายในสนามสอบใต้ดิน มันจะแสดงปฎิกริยาบางอย่างเมื่อมีคนผ่านการทดสอบ
พวกเขามองไปยังแผ่นหินแล้วก็เกิดความสับสน นั้นหมายความว่า มีใครผ่านแล้วและสามารถไปถึงแท่นหิน
คนที่เร็วที่สุดที่สามารถทำลายขั้นตอนของกลไกต้องใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมงจากการสอบที่ผ่านมา แต่ในปัจจุบัน แค่เพียงหนึ่งชั่วโมงก็มีคนผ่านการทดสอบ
การเปลี่ยนแปลงนี้ได้ดึงดูดความสนใจของทุกคน อาวุโสรวมตัวกันแผ่นศิลาและพวกเขาทั้งหมดตกใจเป็นอย่างมาก
” ดูเหมือนว่าจะมีคนที่น่าสนใจในการทดสอบในปีนี้ “‘ซูรู่’ นั้นยังคงประหลาดใจ และเมื่อเธอมองไปที่ระบบกลไก เธอพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
” คิดว่าฉันจะปล่อยให้มันผ่านง่ายๆ ฉันทำให้มันน่าสนใจมากขึ้น “หลังจากพูดแบบนั้น เธอมองขึ้นไปหินทั้งสามที่อยู่บนผนัง ทันใดนั้น เธอก็ยิ้มแปลกๆ และ กดไปยังหิน สาม ก้อน
” อย่าแตะต้องมัน ! “เมื่อเห็นว่า ‘ซูรู่’ กดมันอาวุโสคนอื่นๆ ต่างพากันตกใจ แต่มันสายไปแล้ว หินทั้งหมดถูก ‘ซูรู่’ กดไปเรียบร้อย
” อะไร ? คุณจะบอกฉันว่า หินเหล่านี้จะปล่อยสัตว์ป่าดุร้ายงั้นหรอ “อาวุโสทุกคนตกใจ ‘ซูรู่’ จึงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
” หินนี้กดแล้วจะปล่อยสัตว์ที่ดุร้ายอย่างแน่นอน แต่พวกเขาไม่สามารถกดปิดได้ในเวลาเดียวกัน “” สัตว์ร้ายทั้งหมดถูกปล่อยมา 40 ตัว ทุกตัวอยู่ในระดับ 1 2 , 3 และระดับ 4 ” หลังจากที่พูดจบ ใบหน้าของผู้เฒ่าหลี่ก็ซีด เสียงของเขาก็สั่น
” ถ้าพวกมันถูกกดในขณะเดียวกันพวกมันได้ปล่อยสัตว์ดุร้ายทั้งหมดที่ถูกคุมขังออกมา “
อาวุโสที่ดูแลที่นั่นเข้าใจว่าสัตว์ร้ายนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก พวกมันโหดร้ายและน่ากลัว สัตว์พวกนี้แข็งแกร่งกว่า มนุษย์ที่อยู่ในระดับเดียวกันหลายเท่า
เห็นดังนั้น สัตว์ร้ายมากมายถูกปล่อยออกมาในเวลาเดียวกัน เหล่าลูกศิษย์ต้องถูกฆ่า อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ศิษย์นับหมื่นในสนามสอบใต้จะต้องถูกสัตว์ร้ายฆ่านั้น ไม่ใช่ความคิดที่ดีแน่นอน
” ทำไมท่านไม่เตือนข้าก่อน “
ตอนนั้นหน้าของซูรู่ก็เปลี่ยนไป ร่างกายของเธอเหมือนจะล้มลง เมื่อประตูหินถูกเปิด เธอก็รีบวิ่งออกไป
” พี่ลี่ เราควรจะทำยังไง ? “อาวุโสเหล่านั้นต่างพากันวุ่นวาย
” แล้วเราจะต้องทำยังไง ต้องรีบๆไปช่วยใช่ไม๊ “ผู้เฒ่าหลี่ตะโกนด้วยความโกรธแล้ววิ่งออกไป