Martial God Asura ตอนที่ 135 ข้าต้องการแม่นางทั้งสอง

Martial God Asura ตอนที่ 135 ข้าต้องการแม่นางทั้งสอง

‘ซูรู่’ไม่เข้าใจตัวเอง และ รู้สึกถึงบางอย่างที่บอกไม่ถูก แม้ว่าพรหมจรรย์ของนางจะถูก ‘ชูเฟิง’ พรากไป ตรงนั้นนางเข้าใจดีว่านางสมควรโกรธ แต่หลัง จากที่ ‘ชูเฟิง’ พูดว่าจะแต่งงานกับพวกนางทั้งสอง มันทำให้นางรู้สึกเจ็บปวด
ปัจจุบันนางคิดว่าตัวเองอาจจะตกหลุมรัก’ชูเฟิง’ แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง เพราะ’ชูเฟิง’ชอบน้องสาวของนาง แล้วนางจะไปคบกับ’ชูเฟิง’ได้ยังไง ‘ซูรู่’ รู้สึกสับสนอย่างมาก เป็นครั้งแรกที่นางไม่เข้าใจตัวเอง
ตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ ก็เดินไปตามนาง เพื่อจะหาชุดใหม่ เพราะว่าเสื้อผ้าที่เขาใส่เมื่อคืน เขาได้ฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
” เราจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ หรือว่าจะบอกให้ทุกคนรู้ “
‘ชูเฟิง’พูดและถาม
” เจ้าคิดจะทำอะไร เรื่องนี้สามารถบอกคนอื่นได้งั้นหรอ หากซูเหม่ยรู้ นางจะมองเจ้าและเรายังไง ? “
‘ซูรู่’ตกใจอย่างมาก
” ถึงข้าจะไม่พูดมันตอนนี้ สักวันทุกคนก็ต้องรู้ไม่ช้าก็เร็ว “
‘ชูเฟิง’ พูดอย่างสงบ
” เจ้าหมายความว่าไง “
‘ซูรู่’ ขมวดคิ้วลงเพราะกลัวว่า ‘ชูเฟิง’จะทำอะไรไม่เข้าท่า
” มันก็ไม่มีอะไรมาก ข้าแค่อยากบอกท่านว่าไม่ช้าก็เร็ว ท่านก็ต้องเป็นของข้า “
‘ชูเฟิง’ ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเขาเลย และยังคิดจะไปบอกทุกคนกับเหตุการณ์เมื่อคืน
‘ซูรู่’ได้ยินเช่นนั้น นางรีบหันหน้ามามอง’ชูเฟิง’ ขณะที่กล่าวด้วยน้ำเสียงแปลกๆพร้อมกับผลัก’ชูเฟิง’ออกไป
” รีบไปซะ ตอนนี้ฟ้ายังไม่สว่าง จะได้หนีออกไปโดยที่ไม่มีใครเห็นเจ้าอยู่ในที่พักของเรา “
” อืม . . . . . . ข้ากำลังคิดว่าจะออกจากเมืองนี้ไปยังไง ให้หลีกเลี่ยงซูเหม่ยและซูเฮิน “
‘ชูเฟิง’ พูดขณะที่เตรียมตัวกำลังจะออกไป
” เดี๋ยวก่อน!!! เจ้าคิดจะออกไปจากเมืองวิหคเพลิงงั้นหรอ ? “
สีหน้าของ’ซูรู่’เปลี่ยนไปอย่างมาก นางรีบเดินตาม’ชูเฟิง’ไปติดๆ
” ถูกต้อง “
‘ชูเฟิง’พยักหน้า
” ทำไมเจ้าถึงตัดสินใจเช่นนี้ เรายังไม่รู้สาเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้นเลยนะ แล้วเจ้าจะจากไปแบบนี้งั้นหรอ “
‘ซูรู่’ จ้อง’ชูเฟิง’ขณะที่ความโกรธเพิ่มขึ้น เพราะนางรู้สึกว่า ‘ชูเฟิง’ ไม่ยอมค้นหาความจริงในเรื่องนี้ ที่ทำให้นาง ต้องสูญเสีย พรหมจรรย์
” ข้าพอรู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง เมื่อคืน คนรับใช้ของท่านมาหาข้าในที่พัก และบอกว่าท่านต้องการพบข้า พอไปถึงเขาก็ได้จัดเตรียมชาชนิดพิเศษโดยบอกว่าท่านเตรียมไว้ หลังจากที่ดื่มมันเข้าไป ก็เกิดเหตุการณ์เช่นนั้น “
” อีกทั้งกลิ่นในห้องอาบน้ำ ที่หอมมากจนน่าประหลาดนั่นอีก มันอาจทำให้ยับยั้งการใช้พลังวิญญาณ โดยทำให้ท่านไร้เรี่ยวแรง เมื่อคืนตอนที่ท่านเป็นเช่นนั้น ข้าแน่ใจว่าเป็นเพราะกลิ่นนั้นไม่ผิดแน่ “
” ท่านก็น่าจะรู้ ว่าภายในเมืองวิหคเพลิง คนที่สามารถสั่งคนรับใช้ของท่าน วางยาที่ร้ายกาจเช่นนั้นได้ เป็นใคร “
‘ชูเฟิง’อธิบาย
” เจ้ารู้ . . . . . . . “
ในตอนนั้น ‘ซูรู่’ถึงกับพูดไม่ออก นางไม่คิดว่า ‘ชูเฟิง’ จะสามารถวิเคราะห์ทุกอย่างได้อย่างถูกต้อง และคนๆนั้นที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เป็นใคร นางเองก็แทบไม่อยากจะเชื่อ
” ดูจากสีหน้าของท่าน ก็คงจะรู้ว่าคนๆนั้นเป็นใคร สำหรับเป้าหมายของคนๆนั้น ก็เพื่อให้ท่านและข้าเป็นสามี ภรรยา แต่ข้าก็ไม่คิดจะตำหนิเขา แต่ต้องขอบคุณเขาด้วยซ้ำที่ทำให้ท่านเป็นของข้า “
” ถ้าเขาไม่ทำเช่นนั้น บางที่ข้าอาจจะได้แต่งงานกับลูกสาวคนเล็กของเขา แต่ตอนนี้ ข้ากับได้ลูกสาวทั้งสองของเขามาเป็นภรรยา “
‘ ชูเฟิง’ ยิ้ม พร้อมกับเดินลงจากห้องของนาง
” เจ้าเอาไรมาพูด เจ้ารู้ได้ยังไงว่าเราจะยอมแต่งงานกับเจ้า ? “
‘ซูรู่’ถาม
” ข้าไม่มั่นใจหรอก ว่าท่านจะยอมแต่งงานกับข้าหรือไม่ แต่ตอนนี้ท่านได้เป็นของข้าแล้ว หากท่านมีใครอื่น ข้าจะฆ่าพวกมันซะ “
” ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ท่านก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าท่านนั้นเป็นของข้า และก็ แม่นางน้อยซูเหม่ย อีกคน ข้าจะไม่ยอมให้พวกท่านทั้งสองตกเป็นของใคร “
‘ชูเฟิง’ ในตอนนั้นแสนจะเอาแต่ใจ แต่เขาพูดอย่างจริงจัง หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเขา ‘ซูรู่’ ไม่รู้จะทำหน้ายังไง นางได้แต่หยุดยืนมอง’ชูเฟิง’เดินจากไป
‘ซูรู่’ยังคงยืนอยู่ตรงนั้นอย่างไร้จุดหมาย นางไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง กับสถานการณ์ที่ต้องเสียตัวครั้งแรกหลังจากที่ ‘ชูเฟิง’ ไปได้สักพัก ‘ซูเฮิน’ ก็เดินขึ้นมา ชั้น 5 พอเขาเห็นนาง เขาทำหน้าเหมือนกับรู้สึกผิด แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เขาเดินเข้ามาในห้อง และพบกับรอยเลือดบนพื้น เขาได้แต่ถอนหายใจออกมาและกล่าวเบาๆ
” ลูกพ่อ ข้าทำผิดต่อเจ้า “
‘ซูรู่’ในตอนนั้นเยือกเย็นเป็นอย่างมาก นางถาม’ซูเฮิน’สั้นๆว่า
” ทำไมท่านถึงต้องทำกับข้าเช่นนี้ “
” เฮ้อ ความแข็งแกร่งของตะกูล ซ่างกวน ไม่อาจมองข้าม หากงานแต่งซูเหม่ยถูกยกเลิก ข้าเกรงว่าพวกเขาจะไม่พอใจ หากเกิดการต่อต้านขึ้นมา ต่อให้เราชนะ ก็ได้รับความเสียหายอย่างมาก และในตอนนั้นเมืองของเราจะเข้าสู่วิกฤต “
” น้องเหม่ย ตกหลุมรักชูเฟิงทุกคนก็เห็นๆอยู่ ถ้าเป็นคนอื่น ข้าอาจจะให้พวกเขาตัดความสัมพันธ์  แต่นี้ ชูเฟิง เป็นถึง อัจฉริยะที่หาได้ยาก เมื่อใดที่เขาเติบโต พลังของเขาแม้แต่ ตะกูล ซู ก็ยังไม่อาจขัดใจเขาได้ และเมื่อเวลานั้นมาถึงชาตะกรรมของพวกเราก็ขึ้นอยู่กับเขา “
” งั้นเจ้าก็ต้องเป็นฝ่ายผิด เพราะความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างเจ้าทั้งสอง เป็นธรรมดา ที่เขาอาจจะรู้สึกผิด และข้าเชื่อว่าเขาคงไม่กล้าสู้หน้า ซูเหม่ยอีก “
” จากที่ข้าเห็น ชูเฟิงเหมือนจะเป็นคนที่จริงจัง ในอนาคต ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ยอมทำงานให้ตะกูล ซู ของข้า แต่เขาจะต้องทำทุกอย่างเพื่อปกป้องตะกูลของเรา โดยเขาไม่ได้ทำเพื่อใคร แต่เขาทำทั้งหมดก็เพื่อเจ้า “
‘ซูเฮิน’ ไม่ได้ปิดบังสิ่งที่เขาทำ และพยายามอธิบายหลังจากได้ยินคำพูดของ’ซูเฮิน’ ‘ซูรู่’นางก็ยิ้มแบบแปลกๆ พร้อมกับมองหน้า’ซูเฮิน’และกล่าว
” ท่านพ่อ ที่พูดมาก็ถูก ชูเฟิง นั้นเป็นคนที่เอาจริงเอาจัง ดังนั้นท่านอย่าได้ยกน้องเหม่ยให้ซ่างกวน หย๋า หรือว่าใครก็ตาม ไม่เช่นนั้นเขาอาจจะฆ่าท่านและตะกูล ของเราก็ได้ “
” เจ้าหมายความว่าไง ชูเฟิงยังจะกล้าคิดถึงซูเหม่ยอีกงั้นหรอ หลังจากที่เขาทำเรื่องเช่นนั้นกับเจ้าเขายังคิดกำจัดตะกูล ซู ของข้าอีกงั้นหรอ ชูเฟิงคงไม่กล้าทำลายครอบครัวของคนรักของตัวเองได้หรอก หรือว่าเขาไม่กลัวถูกคนทั้งโลกเยาะเย้ย “
หน้าของ’ซูเฮิน’ เปลี่ยนไปอย่างมาก เป็นธรรมดาที่เขาจะกังวลเพราะดูจากสีหน้าของ’ซูรู่’มันไม่เหมือนกับนางกำลังพูดล้อเล่น
” ท่านพ่อ หากท่านจะตำหนิใคร ท่านก็ต้องตำหนิตัวท่านที่ไม่รู้เรื่องของ ชูเฟิง เขาไม่อาจอยู่บนโลกนี้ได้ โดยที่ขาดคนรักไป ในสายตาของเขา คนอื่นๆจะเป็นยังไงก็ช่าง หากพรากคนรักของเขาไปเขาคงไม่ปล่อยคนผู้นั้นให้มีชีวิตรอดไปได้ “
หลังจากพูดจบ ‘ซูรู่’ก็หันหน้ากลับ และเดินลงจากบันได ด้วยสีหน้าที่สงบ เรื่องที่พ่อของนางขายนางเพื่อผลประโยชน์ของตะกูล นางจะไม่รู้สึกโกรธ
แต่ที่นางโกรธมาก คือการที่นางไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไปหลังจากมอง’ซูรู่’ที่เดินออกจากพระราชตำหนัก เพื่อเดินทางออกจากเมืองวิหคเพลิง ‘ซูเฮิน’ มีสีหน้าการแสดงออกที่ซับซ้อน  หลังจากที่เขาทบทวนอย่างละเอียด เขาก็พูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงต่ำๆ
” หรือว่าข้าจะตัดสินใจผิดพลาด “