“ชายคนนี้แข็งแกร่งจริงๆ มีทั้งทักษะการต่อสู้และของวิเศษที่แปลกประหลาดอีก ถ้าไม่ใช่เพราะแรงกดดันบนชั้นที่ 4 นี่ คอยกดดันพลังของเขา ข้าไม่มั่นใจเลยว่าจะสามารถเอาชนะเขาได้ ด้วยพลังขั้นกำเนิดวิญญาณระดับ 1 ของข้า”‘ชูเฟิง’ตระหนักถึงความแข็งแกร่งของ’เจี่นปู้ฟาน’ ในตอนนี้เขายังไม่ได้ใช้พลังที่แท้จริงของเขาเนื่องจากแรงกดดันวิญญาณ เขาจึงดึงพลังออกมาได้เพียงระดับ 6 ขั้นกำเนิดวิญญาณเท่านั้น แต่ในขณะที่’ชูเฟิง’ไม่ได้รับผลกระทบจากแรงกดดันวิญญาณ เขาจึงสามารถใช้พลังได้อย่างเต็มที่
หากว่าพวกเขาออกจากหอคอยนี่ และต่อสู้กันในพื้นที่ปกติ แม้ว่าเขาจะใช้พลังของสายฟ้าสีทอง และพลังของ’ชูเฟิง’อยู่ในระดับที่ 2 ขั้นกำเนิดวิญญาณ เขาก็ไม่สามารถเอาชนะ’เจี่ย ปู้ฟาน’ได้
หลังจากที่เขาพบของวิเศษมากมายบนภูเขา แต่ในขณะที่ ‘เจี่ย ปู้ฟาน’หยิบดาบเยือกเย็นออกมานั้น ‘ชูเฟิง’รู้เพียงแค่ว่ามันเป็นอาวุธที่มีพลังวิญญาณ นอกเหนือจากนี้แล้วนั้น เขาไม่รู้เลยว่า’เจี่ย ปู้ฟาน’ยังมีของวิเศษอะไรอีกบ้าง
ในขณะนั้น’ชูเฟิง’รู้สึกชื่นชมในตัวของ’เจี่ยปู้ฟาน’ เนื่องจากเขาต่อสู้ด้วยชีวิตของเขา ถึงแม้เขาจะเหนือกว่า แต่เขาก็ใช้ทุกอย่างที่เขามี และแน่นอนว่า เขาไม่ได้มีของวิเศษเพียงชิ้นเดียว
เพราะความรู้สึกชื่นชมที่ไม่มากไม่น้อยนี้ จึงทำให้’ชูเฟิง’คิดได้ว่า คนที่เกิดในตระกูลที่ร่ำรวย ย่อมมีความมั่งคั่งและมั่นคง เพียบพร้อมไปด้วยทุนทรัพย์ ตราบใดที่พวกเขาแสดงให้เห็นว่าตนเองพิเศษต่อหน้าผู้อาวุโสของตระกูล นั่นจึงเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะได้รับมาซึ่งของวิเศษต่างๆ
***** ฉัวะ *****
ในขณะนั้น มีประกายสายฟ้าแฉลบผ่านแขนซ้ายของ’ชูเฟิง’ไป ‘ชูเฟิง’จับแขนด้วยความตกใจ
“แม่งงง…เอ๊ย”ในวินาทีนั้น ความรู้สึกแปล๊บแล่นจากแขนซ้ายเข้าสู่สมองของเขา เขาจึงรู้ว่าเขาได้รับบาดเจ็บ แม้บาดแผลจะไม่ได้สาหัส และเป็นเพียงบาดแผลบนผิวหนังเท่านั้น แต่เขาก็ยังคงรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก
“หึหึ…..นี่เป็นเพียงการทักทาย ในชั่วอึกใจเจ้าจะต้องตายภายใต้คมดาบของข้า”หลังจากโจมตี’ชูเฟิง’ได้สำเร็จครั้งแรก ‘เจี่ยปู้ฟาน’ก็เริ่มกระหน่ำการโจมตีเข้าหา’ชูเฟิง’อย่างบ้าคลั่ง
“เจ้าคิดจริงๆ เหรอว่าเจ้าจะสามารถเอาชนะข้าได้”หลังจาก’ชูเฟิง’ถูกจู่โจมด้วยดาบ มันทำให้เขารู้สึกโกรธมาก เขาเร่งพลังของเขาขึ้นพลันเกิดประกายแสงสีขาวขึ้นใต้ฝ่าเท้าของเขา จากนั้นเขาก็หายไป และปรากฏตัวที่ด้านหลัง’เจี่ยปู้ฟาน’
“เจ้านี่…รวดเร็วยิ่งนัก”ในขณะนั้น ไม่ว่าจะเป็น’เจี่ยปู้ฟาน’ที่กำลังสู้กับ’ชูเฟิง’ หรือแม้แต่’กู๋โบ่’ที่เฝ้ามองการต่อสู้อยู่ด้านหลัง พวกเขาล้วนต่างเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อ’ชูเฟง’ทันที
“นี่คงเป็นทักษะลับซินะ”
พวกเขาสามารถบอกได้ว่า ‘ชูเฟิง’ใช้ทักษะลับ มันเป็นทักษะที่สมบูรณ์แบบ และแตกต่างจากสายฟ้าใต้เท้าของเขาก่อนหน้านี้ ประแสงสีขาวนั่นทำให้เขารวดเร็วขึ้นอย่างมาก หากบอกว่าสายฟ้าก่อนหน้านี้ เป็นทักษะลับระดับ 5 ถ้าเช่นนั้นประกายแสงสีขาวตอนนี้ ย่อมเป็นทักษะลับระดับ 6 ที่แข็งแกร่งอย่างแน่นอน
“ชูเฟิงสามารถฝึกฝนทักษะระดับ 6 ได้ เขามาจากที่ใดกัน”‘กู๋โบ่’ตกใจอย่างมาก ไม่ใช่ว่าทุกคนสามารถฝึกฝนทักษะระดับ 6 ได้ ถึงแม้จะอยู่ในนิกายโลกวิญญาณก็ตาม เนื่องจากความยากในการฝึกฝนของทักษะระดับ 6 นั้นอยู่ในระดับสูง
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้นั้น’ชูเฟิง’ได้แสดงความสามารถของทักษะระดับ 6 ออกมา มีข้อพิสูจน์ได้สองประการ
ประการแรก การที่จะสามารถฝึกฝนทักษะระดับ 6 ได้นั้น แสดงว่า’ชูเฟิง’ต้องมีความสามารถที่ล้ำลึก ไม่เช่นนั้นแล้วเขาก็ไม่สามารถที่จะฝึกฝนทักษะที่แข็งแกร่งนี้ได้
ประการที่สอง หาก’ชูเฟิง’มีโอกาสได้รับการฝึกฝนทักษะระดับ 6 จริง แต่การที่จะใช้ทักษะระดับ 6 ในการต่อสู้ได้นั้น ไม่เรื่องง่ายที่ใครก็สามารถทำได้ นี่แสดงว่าชูเฟิงนั้นเป็นอัจฉริยะอย่างมาก
สองประการนี้ ทำให้’กู๋โบ่’ และ’เจี่ยปู้ฟาน’ประหลาดใจ แต่จะเห็นได้ว่า ‘ชูเฟิง’นั้นไม่ได้รับผลกระทบจากแรงกดดันวิญญาณเลยแม้แต่น้อย และเขาไม่เคยพ่ายแพ้ให้กับใครที่มีพลังวิญญาณอยู่ในระดับ 7 ขั้นกำเนิดวิญญาณ โดยที่เขามีพลังแค่ระดับ 1 ขั้นกำเนิดวิญญาณเท่านั้น
นั่นหมายถึงความจริงที่ว่า ‘ชูเฟิง’นั่นเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง เป็นอัจฉริยะที่อยู่เหนือกว่าพวกเขา
ทุกอย่างที่’ชูเฟิง’แสดงออกมา ได้ตราตรึงอยู่ภายในหัวใจของพวกเขา หากพวกเขารู้ว่าทักษะที่’ชูเฟิง’ใช้นั้น ไม่ได้เป็นทักษะระดับ 6 แต่มันเป็นทักษะระดับ 7 พวกเขาจะมีการตอบสนองเป็นเช่นไร
“ข้าไม่เชื่อว่า ข้าจะไม่สามารถทำลายการป้องกันจากของวิเศษของเจ้าได้ !!”หลังจากหลบการโจมตีได้นั้น ในมือของ’ชูเฟิง’ก็ปรากฏคันธนูยาวขึ้นมา นั่นหมายความว่าเขาใช้ทักษะสูงสุดของทักษะธนูร้อยแปลง
*****ฟุ่บ*****ฟุ่บ*****ฟุ่บ*****
มือขวาของ’ชูเฟิง’ขยับดึงคันศรอย่างรวดเร็ว พลันปรากฏลูกศรจำนวนมาก มันราวกับพายุที่พุ่งเข้าใส่’เจี่ย ปู้ฟาน’
*****เคร้ง*****เคร้ง*****เคร้ง*****
‘เจี่ยปู้ฟาน’โบกสะบัดดาบเหล็กเย็นภายในมือของเขา เพื่อป้องกันลูกศรที่พุ่งมาเหมือนห่าฝน อย่างไรก็ตาม การโจมตีของ’ชูเฟิง’ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์ เนื่องจาก’เจี่ยปู้ฟาน’สามารถปัดลูกศรได้ทั้งหมด แต่ว่าหากไม่มีของวิเศษช่วยป้องกัน เขาคงพรุนจนเป็นตะแกรงไปแล้ว
“เปล่าประโยชน์ !! ของวิเศษที่ช่วยปกป้องข้านี่ มันเป็นสมบัติล้ำค่าของตระกูลเจี่ยของข้า เป็นสุดยอดยุทธภัณฑ์ที่พี่ชายข้าให้ยืมมา”‘เจี่ยปู้ฟาน’กล่าวอย่างหยิ่งผยอง
“การป้องกันของข้านั้น…!! ไม่ต้องพูดถึงเจ้า แม้แต่ผู้ที่มีพลังวิญญาณขั้นแดนสวรรค์ ก็มิอาจที่จะแตะต้องข้าได้แม้แต่ปลายเส้นผม”
“สมบัติของตระกูล !? ยอดยุทธภัณฑ์์เกราะหนาม !!”เมื่อได้นยินคำกล่าวของ’เจี่ยปู้ฟาน’ ‘กู๋โบ่’ตกใจอย่างมากเมื่อคิดถึงชื่อพี่ของ’เจี่ยปู้ฟาน’
ถ้าหากว่าพี่ชายของ’เจี่ยปู้ฟาน’อยู่ในช่วงหนุ่มสาว เขานั้นจะต้องเป็นอันดับหนึ่งของคนรุ่นใหม่อย่างแน่นอน และเขายังเป็นอัจฉริยะที่โดดเด่นที่สุดของตระกูลเจี่ยอีกด้วย
เขาเข้าสู่ระดับแดนสวรรค์วิญญาณตอนอายุ 17 เมื่อเขาอายุ 23 เขาก็ขึ้นสู่จุดสูงสุดของระดับแดนสวรรค์ และความสามารถของเขานั้นเทียบเท่ากับเหล่าผู้อาวุโส ในขณะนั้นนิกายโลกวิญญาณต่างเกรงกลัวพี่ชายของ’เจี่ยปู้ฟาน’อย่างถึงที่สุด
เนื่องจากความสามารถที่โดดเด่นของเขา เขาจึงได้ถูกตั้งความหวังให้เป็นผู้นำของตระกูลเจี่ย ก่อนที่เขาจะหายไปอย่างลึกลับ เขาย่อมได้รับสมบัติต่างๆ มากมาย รวมถึงยอดอาวุธยุทธภัณฑ์เกราะหนาม
มันเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของ’กู๋โบ่’ ที่พี่ชายของเขาจะให้ยืมยอดยุทธภัณฑ์อย่างเกราะหนามแก่’เจี่ยปู้ฟาน’ มันคงจะจริงที่แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นแดนสวรรค์จะไม่สามารถแตะต้องเขาได้ จึงไม่จำเป็นที่จะต้องพูดถึง’ชูเฟิง’เลย
“น้องชายชูเฟิง !! อย่าไปตอแยเขาอีก ยอดยุทธภัณฑ์เกราะหนาม ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะสามารถทำลายได้”‘กู๋โบ่’กล่าวอย่างรวดเร็วกับ’ชูเฟิง’ เขาตระหนักได้ว่า นี่คือสิ่งที่ผิดพลาด
“หืม….มันไม่สามารถทำลายได้งั้นรึ ถ้าเช่นนั้นข้าจะลองทำลายมันดู”หลังจากได้ยินคำของ’กู๋โบ่’ ‘ชูเฟิง’ไม่อาจยอมรับได้ ในขณะนั้นบรรยากาศรอบๆ ตัวของ’ชูเฟิง’พลันเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และแตกต่างจากก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง
*****โฮกกกกกกกกกกก !!*****
ทันใดนั้นเสียงคำรามของพยัคฆ์ดังออกมา แรงกดดันมหาศาลแผ่ขยายออกราวกับสวรรค์จะถล่ม แรงกดดันนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั้งชั้น ของชั้นที่ 4
“อึ่ก……….แรงดัน นี่มันอะไรกัน !!”ด้วยความรู้สึกที่แตกต่างอย่างมาก ใบหน้าของ’กู๋โบ่’เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ความกดดันที่แผ่ออกมากร่างกายของ’ชูเฟิง’นั้น ให้ความรู้สึกราวกับแรงกดดันของผู้เชี่ยวชาญขั้นแดนสวรรค์วิญญาณ แต่’ชูเฟิง’นั้นอยู่ในระดับที่ 1 ขั้นกำเนิดวิญญาณเท่านั้น เขาสามารถปล่อยแรงกดดันขนาดนี้ได้ยังไง
แปลโดย คุณ#
ที่มา: