* โฮ่กกกก!!!! *
วินาทีนั้น ‘ชูเฟิง’ ชี้นิ้วของเขาออก รอบๆนั้นมีออร่ามหาศาลและทรงอนุภาพปกคุลมเท่านิ้วของ’ชูเฟิง’เสียงของสัตว์ปีศาจคำรามออกมาราวกับว่าจะบดขยี้โลกทั้งใบด้วยพลังที่น่ากลัวของมัน ออร่ามหาศาลแหวกอากาศกระจุยกระจาย ขณะที่มันพุ่งทะยานออกไป ก็มีลายขาวดำบนตัวพยัคฆ์ปรากฏขึ้น
” อย่าได้ใจไปหน่อยเลย “‘เจี่ย ปู๋ฟ้าน’ สะบัดดาบเยือกเย็นในมือของเขาสับออร่าที่พุ่งเข้ามา เพื่อที่จะป้องกันการโจมตีของ ‘ชูเฟิง’ เขาจึงคิดจะใช้ดาบของเขาทำลายมัน
* เคร้งงงง *
ยังไงก็ตาม เมื่อพลังนั้นปะทะกับดาบเยือกเย็น ประกายไฟและไอเย็นกระจายทั่วอากาศ จนเกิดคลื่นเสียงดังก้องกังวาลภายในหู ดาบเยือกเย็น ของ’เจี่ย ปู๋ฟ้าน’ หักออกเป็นสองท่อนสิ่งที่น่ากลัวกว่านั้น คือหลังจากที่ออร่านั้นทำลายดาบเยือกเย็น มันก็ยังคงพุ่งเข้าใส่ ‘เจี่ย ปู๋ฟ้าน’ ที่ยังเหลือเกราะป้องกัน
* ปังงงงงงงงง *
เสียงดังกระหึ่ม ซัด’เจี่ย ปู๋ฟ้าน’ ลอยขึ้นไปอย่างน่าอนาถ จนไปชนเข้ากับผนังของหอคอยอสูรฟ้า แรงปะทะของมันทำให้ชั้นที่ 4 ทั้งหมดสั่นสะเทือน แม้แต่คนที่อยู่ภายนอกของหอคอยยั่งเห็นได้ชัดว่ามันกำลังสั่นอยู่
” ท่านอาวุโสเกิดอะไรขึ้น !!! “ในตอนนั้น ไม่ว่าจะเป็น คนจากตระกูลเจี่ย หรือ นิกายโลกวิญญาณ พวกเขาได้แต่เหวี่ยงสายตาไปที่ 6 อาวุโสการสั่นสะเทือนแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ทุกคนก็พอจับใจความได้ว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นภายในหอคอยอสูรฟ้า พวกเขาเพียงต้องการอยากรู้ ว่าอัจฉริยะของใครอยู่ภายในหอคอย
อีกทั้งเพื่อตรวจสอบว่าภายในนั่นมันเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้ที่พวกเขาทำได้ คือการรอคำสั่งจาก 6 อาวุโสแน่นอนว่าผู้ใต้บังคับบัญชาจะไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น แม้แต่ 6 อาวุโสตัวแทนตระกูลเจี่ยและนิกายโลกวิญญาณก็ยังไม่รู้เช่นเดียวกันแต่เมื่อมองไฟสีฟ้าที่ปรากฏอยู่ชั้น 4 พวกเขาสามารถบอกได้ว่า มี 2 คนกำลังปะทะกัน
และหนึ่งในนั้น ทำให้หอคอยสั่นสะเทือน มันอาจจะเกิดขึ้นจากการต่อสู้ของทั้ง 2 คน แต่ก็ไม่ทราบว่าใครมีการโจมตีที่สามารถทำให้หอคอยอสูรฟ้าเขย่าได้ถึงขนาดนี้ ?
หลังจากคิดสักพัก ตัวแทนอาวุโสทั้งสองฝ่ายก็มองหน้ากัน แต่พวกเขาก็ไม่ได้ออกคำสั่งให้ตามไปดูเหตุการณ์ในหอคอย พวกเขาแค่ยกมือขึ้นมาเพื่อแสดงให้ผู้คนรอบๆเกิดความสงบบนชั้นที่ 4 ของหอคอยอสูรฟ้า
‘กู่ โบ๋’ ยังคงยืนอยู่ตรงนั้นขณะที่นิ่งไม่ไหวติง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ยิ่งเมื่อเขาเห็น ‘เจี่ย ปู๋ฟ้าน’ ที่ทรุดตัวงออยู่ข้างผนัง เขาก็ยิ่งตกใจเกราะป้องกันที่ ‘เจี่ย ปู๋ฟ้าน’ ใช้อำนาจพลังวิญญาณปกปิดเอาไว้ ตอนนี้มันกลายเป็นสีแดงเลือด ออร่าของมันดูเปลี่ยนไป
จนสามารถมองเห็นรูปร่างของเกราะที่ห่อหุ้มร่างของ ‘เจี่ย ปู๋ฟ้าน’ ได้อย่างชัดเจนแม้จะมีการป้องกันจากรูปแบบอำนาจฯและสุดยอดยุทธภัณฑ์ แต่เมื่อเจอกับ วิชา พยัคฆ์ฯสังหารของ’ชูเฟิง’ ‘เจี่ย ปู๋ฟ้าน’ จึงไม่อาจต่อกรได้ใบหน้าของเขาซีดเผือดและออร่ารอบๆดูเบาบาง เลือดค่อยๆไหลออกมาจากมุมปาก อีกทั้งสายตาก็ยังเต็มไปด้วยความตกใจ และความหวาดกลัว เขาทำหน้าเหม่อลอยมอง’ชูเฟิง’อย่างว่างเปล่า และกล่าว
” เจ้าเป็นใครกันแน่ ? “‘ชูเฟิง’ยิ้มเบาๆ ขณะที่ค่อยๆก้าวไปหา ‘เจี่ย ปู๋ฟ้าน’แม้ว่าวิชา พยัคฆ์ฯสังหาร จะไม่สามารถทำลายสุดยอดยุทธภัณฑ์บนร่างของ ‘เจี่ย ปู๋ฟ้าน’ได้ แต่มันก็ทำให้ร่างกายเขาได้รับผลกระทบ จนบาดเจ็บ
” ข้าเป็นคน ที่จะทำให้การสอบของเจ้าสุดสิ้น !!! “
ตราบใดที่ ‘ชูเฟิง’ ยังใช้การโจมตีนี้ เขาก็สามารถปลิดชีวิตน้อยๆของ ‘เจี่ย ปู๋ฟ้าน’ ได้ไม่ยาก
” เจ้าคิดจะทำอะไร ? หากเจ้ากล้าฆ่าข้า ตระกูลเจี่ย จะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่ และพี่ชายของข้าจะไม่ยกโทษให้เจ้า เจ้าจะไม่ตายดี !!! “‘เจี่ย ปู๋ฟ้าน’ ผวาด้วยความหวาดกลัว เด็กหนุ่มตรงหน้าเขาร้ายกาจเกินไป เขาแสดงความสามารถและวิธีการที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อน โดยเฉพาะการโจมตีก่อนหน้านี้ แม้แต่สมบัติล้ำค่าที่สุดของตระกูล เจี่ย สุดยอดศาสตราวุธและยอดยุทธภัณ์ อย่างเกราะหนาม ก็ยังไม่สามารถปกป้องเขาได้ความเจ็บปวดตามร่างกายของเขาบอกว่า
อย่าโดนการโจมตีแบบนั้นเข้าไปอีกทีไม่งั้นมึงได้ตายแน่ เขากลัวจริงๆว่าเกราะหนามจะไม่อาจปกป้องเขาได้ และเขาจะตายไปทั้งๆแบบนี้
” หากข้าปล่อยเจ้าไป ตระกูลเจี่ยของเจ้าก็จะปล่อยข้าไปบ้างไม๊ล่ะ ? “‘ชูเฟิง’ ยังคงก้าวไปด้านหน้า
” น้องชาย ชูเฟิง ไว้ชีวิตเขาเถอะ!!! “ในตอนนั่น ‘กู๋ โบ๋’ ก็พูดขึ้นมา ดูจากสีหน้าและแววตาของเขา วิตกอย่างมาก หากฆ่าเขาจริงๆเรื่องอาจไม่จบง่ายๆ ‘ชูเฟิง’ ก็พอรู้อยู่แล้วว่าเป็นอาจจะมีปัญหาตามมา เมื่อมีคนกระตุ้น เขาจึงหยุดคิดที่จะโจมตี จากนั้นเขาก็ชี้หน้า ‘เจี่ย ปู๋ฟ้าน’ และกล่าว
” เจ้าจงอยู่ที่ชั้น 4 ไป!!! หากเจ้ายังกล้าตามข้าขึ้นมาที่ชั้น 5 ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าแน่ “หลังจากที่พูดคำนั้น จบ ‘ชูเฟิง’ ก็เดินขึ้นไปที่ชั้น 5 พร้อมกับ ‘กู่ โบ๋’ ส่วน ‘เจี่ย ปู๋ฟ้าน’ เขาไม่ได้ปฏิเสธคำพูดของ’ชูเฟิง’ หลังจากที่ได้พบความวิกลจริตของ’ชูเฟิง’ เขาก็รู้ทันทีว่า ‘ชูเฟิง’ มันบ้า
เมื่ออยู่ภายในหอคอยอสููรฟ้ากับคนบ้าเขาจึงจำเป็นต้องระวังตัวมากยิ่งขึ้น หากขืนไปยุ่งมากๆมีหวัง คงจบแบบศพไม่สวยอำนาจพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งของ ‘ชูเฟิง’ อีกทั้งร่างกายที่พิเศษออกไป แม้ว่าเขาจะสัมผัสได้ถึงแรงดันวิญญาณมหาศาลของหอคอยอสูรฟ้า แต่เขาก็ไม่ได้รับผลกระทบจากมัน จึงทำให้เขาเดินได้อย่างปกติ
แต่สำหรับ ‘กู่ โบ๋’ ไม่ได้ง่ายแบบนั้น แรงดันวิญญาณชั้น 4 ไม่สามารถหยุดเขาไว้ได้ก็จริง ก่อนที่ถึงชั้น 5 ที่เป็นเป้าหมายของเขา เขาจำเป็นต้องใช้ความอดทนและความพยายามอย่างมากขณะที่พวกเขาเดินผ่านทางเดินหลายขั้น มันมีอุปสรรคอยู่น้อยมาก พวกเขาไปชั้นที่ 4 ยังยากกว่านี้อีก
แต่ยังไง ‘ชูเฟิง’ และ ‘กู่ โบ๋’ ก็ต้องเดินต่อไป
” น้อง ชูเฟิงท่านทำยังไง ถึงสามารถทำให้ยอดยุทธภัณฑ์คืนรูปร่างเดิมของมัน “‘กู่ โบ๋’ ซอกแซกถาม เขาไม่สามารถลืมภาพ ที่ ‘ชูเฟิง’ แสดงก่อนหน้านี้ได้ ซึ่งเป็นการโจมตีที่สามารถปลิดชีพคนได้ง่ายๆ
” ข้าก็ไม่รู้ว่าทำได้ยังไง หรือข้าอาจก็ทำได้โดยบังเบิญ “‘ชูเฟิง’ ยิ้มเบาๆ ถึงแม้ว่า’กู่ โบ๋’ เป็นคนนิสัยดีและน่าประทับใจ แต่พวกเขาก็ยังไม่คุ้นเคย เป็นธรรมดาที่ ‘ชูเฟิง’ จะไม่บอกความลับของวิช พยัคฆ์ฯสังหาร เพราะทักษะเร้นลับมันสามารถถูกดึงไปจากร่างกายได้หากเขาถูกฆ๋า
” เออใช่ ที่ท่านบอกว่า เจี่ย ปู๋ฟ้าน มียอดยุทธภัณฑ์บนร่างกาย อะไรคือสุดยอดยุทธภัณ์ “‘ชูเฟิง’ถาม
” น้องชูเฟิง เจ้าไม่รู้ว่าสุดยอดยุทธภัณฑ์คืออะไรงั้นหรอ ? “หลังจากได้ยินที่ ‘ชูเฟิง’ ถาม ‘กู่ โบ๋’ แปลกใจนิดหน่อย
‘ชูเฟิง’ ส่ายหน้าด้วยรอยยิ้ม เพราะเขาไม่รู้ว่าสิ่งที่เรียกว่า สุดยอดยุทธภัณฑ์ คืออะไร แต่ดูจากสีหน้าของ ‘กู่ โบ๋’ แล้วเขาค่อนข้างที่จะประทับใจทีเดียว
” สุดยอดยุทธภัณฑ์เป็นสมบัติล้ำค่าและพวกมันยังเข้ากันกับผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ เพราะมีการก่อตัวอำนาจวิญญาณที่มีประสิทธิภาพหากใครได้รับพวกมัน เขาจะสามารถแสดงพลังที่แข็งแกร่งออกมาอย่างไม่สิ้นสุด “‘กู่ โบ๋’ กล่าว
” มันเป็นชนิดของอำนาจพลังวิญญาณจึงไม่สามารถนำไปเปรียบกับทักษะการต่อสู้ได้ หากใครที่เข้าจุดสูงสุดอาณาจักรแก่นแท้วิญญาณและใช้พลังของสุดยอดยุทธภัณฑ์ แม้แต่ผู้ที่อยู่ในอาณาจักรวิญญาณสวรรค์ยังต้องหลีกเลี่ยงการปะทะ “
สุดยอดยุทธภัณฑ์ คงเหมือนสุดยอดศาสตราวุธเครื่องป้องกัน
ที่มา: