Martial God Asura ตอนที่ 201 – ปกป้อง
“นั่น !! เขาคือชูเฟิง”มีเสียงพูดคุยดังระงมไปทั่วบริเวณ ในขณะนั้น ‘ชูเฟิง’ถือได้ว่าเขากลายเป็นตำนานไปแล้ว เนื่องจากในรอบร้อยปีที้ผ่านมานั้น เขาคือคนแรกที่สามารถขึ้นไปยังชั้นที่ 6 ได้ เขาจึงกลายเป็นตัวอย่างที่ดีของใครหลายๆ คน
“เขาทำได้อย่างไรจึงสามารถขึ้นไปยังชั้นที่ 6 ได้กัน!!”
แม้ว่าในปัจจุบัน’ชูเฟิง’ยังคงอ่อนแออย่างมาก แต่ด้วยพรสวรรค์ของเขานั้น จึงถูกกำหนดให้เขากลายเป็นบุคคลสำคัญในภายภาคหน้าแล้ว เพราะเหตุนี้เอง เขาจึงรู้สึกเป็นเกียรติและภาคภูมิใจอย่างมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพวกเขาได้เห็นใบหน้าที่อ่อนวัยของ’ชูเฟิง’ พวกเขายิ่งตื่นตกใจกันขึ้นไปอีก เพราะด้วยวัยเพียงเท่านี้ แต่’ชูเฟิง’สามารถทำได้ถึงเพียงนี้ แล้วถ้าในภายภาคหน้านั้น ความสำเร็จของเขายิ่งยากที่จะคาดเดาได้ ความตื่นตะลึงและความชื่นชมเหล่านี้ ได้สถิตย์อยู่ภายในก้นบึ้งของหัวใจของหลายๆ คน
*****หึหึ*****
ในขณะนั้น ภายในกลุ่มฝูงชนนั้น ก็ปรากฏกลุ่มคนจากตระกูลเจี่ย ที่นำโดยผู้อาวุโสทั้งสาม พุ่งตรงมายัง’ชูเฟิง’
ที่ด้านหลังของผู้อาวุโสทั้งสามนั้น มี ‘เจี่ยเฮง’ ‘เจี่ยกัง’ และคนอื่นๆที่ถูกชูเฟิงซ้อมติดตามมา ออร่าพลังของพวกเขาดูอ่อนแอลง และเมื่อสังเกตดูดีๆ จะพบร่องรอยฟกช้ำบนร่างกายของพวกเขา
“เจี่ยเฮง !! เจี่ยกัง !! ใครเป็นผู้ที่ทำร้ายพวกเจ้าภายในหอคอยอสูรฟ้านั่น !?”ผู้อาวุโสจากตระกูลเจี่ยหยุดอยู่ด้านหน้าของ’ชูเฟิง’และถามขึ้น
“ผู้อาวุโส คนที่ทำร้ายแบะขัดขวางพวกเราคือชูเฟิง”‘เจี่ยเฮง’กล่าวตอบพร้อมทั้งจ้องมองไปที่’ชูเฟิง’ด้วยความอาฆาต
“จับมัน !!”ผู้อาวุโสจากตระกูลเจี่ยตะโกนสั่งทันที จากนั้นเหล่าผู้เชี่ยวชาญระดับแก่นแท้วิญญาณด้านหลังเขา ก็ทะยานตัวตรงไปที่’ชูเฟิง’ พร้อมทั้งส่งพลังแรงกดดันหมายจะบดขยี้’ชูเฟิง’
แรงกดดันมหาศาลปรากฏขึ้น มันราวกับภูเขาลูกย่อมพุ่งกดทับมาที่ชูเฟิง แม้แต่’ชูเฟิง’ยังต้องขมวดคิ้วแน่น
“ชูเฟิง !! ข้าจะให้เจ้ายืมพลังของข้า !!”ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ‘ต้านต้าน’ จึงจะให้’ชูเฟิง’ใช้พลังของนาง เพื่อที่จะโจมตีเปิดทางฝ่าวงล้อมออกไปได้
“ไม่จำเป็น !!”‘ชูเฟิง’กล่าวปฏิเสธทันที เขาไม่ได้โจมตีกลับหรือหลบหลีกแต่อย่างใด เขายังคงยืนรอรับการโจมตีของตระกูลเจี่ยอยู่อย่างสงบ
ในตอนแรกนั้น ‘ต้านต้าน’ ไม่เข้าใจถึงการกระทำของ’ชูเฟิง’ แต่ด้วยความที่นางอยู่กับ’ชูเฟิง’มาเป็นเวลานานนั้น นางจึงมีความเชื่อมั่นต่อ’ชูเฟิง’อย่างถ่องแท้
***** อ๊ากกกก !!*****
ในขณะนั้น มีพลังออร่าสีทองเขามากวาดเหล่าผู้เชี่ยวชาญของตระกูลเจี่ยกระเด็นออกไป พวกเขากระเด็นไปราวกับว่าวขาดป่านด้วยแรงลมมหาศาล
ในเวลาเดียวกันนั้น ได้มีสามผู้อาวุโสจากนิกายโลกวิญญาณ มาปรากฏตัวที่ด้านหน้าของชูเฟิงอย่างสงบนิ่ง ที่ด้านหน้าสุดนั้นคือ ผู้อาวุโสหลี่
“ผู้อาวุโสหลี่ !! นี่เป็นความแค้นระหว่างตระกูลเจี่ยกับไอ้เด็กนี่ !! ท่านอย่าได้เข้ามาก้าวก่าย !!”เมื่อเห็นการกระทำเช่นนั้น ผู้อาวุโสของตระกูลเจี่ยตะโกนออกมาอย่างไม่มีการไว้หน้าใดๆ ทั้งสิ้น
“ไร้สาระ !! ที่นี่อยู่ภายใต้แอาณาเขตของนิกายโลกวิญญาณ แล้วไม่ใช่พวกเจ้าตระกูลเจี่ยรึ ที่กระทำการต่ำช้าขึ้นก่อน !?”ผู้อาวุโสหลี่ สะบัดมือของเขาออก ฉับพลันนั้น รอบๆ ลานกว้างได้มีกลุ่มคนนับพันเข่ามาล้อมรอบตระกูลเจี่ยไว้
“ผู้อาวุโสหลี่ ท่านยังสติดีอยู่รึเปล่า !! สำหรับคนนอกนั้น หากท่านยื่นมือเข้ามา จะกลายเป็นท่านที่ละเมิดสนธิสัญญาพันธมิตร และเป็นการทำลายมิตรภาพอันดีระหว่างตระกูลเจี่ยของข้า กับนิกายโลกวิญญาณของท่าน ท่านจะสามารถแบกรับความรับผิดชอบนี้ไหวรึ !!”ผู้อาวุโสตระกูลเจี่ยกล่าวถาม
“หืมมมม !? อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ ว่าพวกเจ้ากระทำสิ่งใดภายในหอคอยอสูรฟ้า !! ถ้าจะให้ถูกต้อง พวกเจ้าต่างหากที่เป็นฝ่ายทำลายสนธิสัญญาพันธมิตร !!”ผู้อาวุโสหลี่ กวาดสายตามองไปทั่วบริเวณ เสียงของเขายิ่งทรงพลังขึ้น
“วันนี้ !! ข้าจะขอให้คำสัตย์ไว้ ณ ที่แห่งนี้ ชูเฟิงได้รับการคุ้มครองโดยนิกายโลกวิญญาณของข้า หากผู้ใดทำร้ายเขา ก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือน !!”
“ไม่เป็นไร ผู้อาวุโสหลี่ มาดูกันว่าท่านจะแบกรับความรับผิดชอบนี้เช่นไร !!”แม้ว่าตระกูลเจี่ยจะโกรธเคืองมาก แต่พวกเขาก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกมาอีก พวกเขาเพียงหันหลังกลับและนำกองกำลังออกไป ที่นี่เป็นอาณาเขตของนิกายโลกวิญญาณ มันไม่สมควรที่จะกระทำการอันใดภายใต้อาณาเขตนี่
“ไม่ต้องกังวลไป แม้ว่าตระกูลเจี่ยจะไร้ซึ่งคุณธรรม แต่นิกายโลกวิญญาณของข้านั้นจะเป็นฝ่ายสอนมันให้แก่พวกเจ้าเอง”ผู้อาวุโสหลี่ ยังคงกล่าวทิ้งท้ายไว้
หลังจากตระกูลเจี่ยจากไป การทดสอบเป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดคลุมสีขาวก็ได้ปิดฉากลง สำหรับ’ชูเฟิง’ที่เป็นจุดเด่นในการทดสอบครั้งนี้ เขาได้รับคำเชื้อเชิญให้เข้าร่วมงานเลี้ยงที่จัดขึ้นเพื่อเขา จากนิกายโลกวิญญาณในพระราชวัง และบุคคลที่ส่งคำเชิญนี้คือสหายของเขา ‘กู๋โบ่’
“พี่ก๋โบ่….”‘ชูเฟิง’รู้สึกทำตัวไม่ถูกเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่นิกายโลกวิญญาณจะจัดการปัญหาของเขา ที่มีต่อตระกูลเจี่ยให้เท่านั้น แต่พวกเขายังจัดงานเลี้ยงนี้ขึ้นเพื่อเขาอีก ‘ชูเฟิง’จึงรู้สึกประทับใจต่อนิกายโลกวิญญาณอย่างมาก
“น้องชูเฟิง เจ้าไม่ต้องปิดกันตัวเองเช่นนั้น เจ้ามีค่ามากพอที่จะได้รับสิ่งดีๆ จากนิกายโลกวิญญาณของข้า”‘กู๋โบ่’ กล่าวพลางยิ้มให้’ชูเฟิง’
หลังจากได้ยินคำกล่าวนี้ ‘ชูเฟิง’ทราบทันทีถึงเจตนาของนิกายโลกวิญญาณ แน่นอนว่าหลังจากที่พวกเขาเห็นถึงความสามารถของ’ชูเฟิง’นั้น พวกเขาต้องการดึงตัวของ’ชูเฟิง’ให้เข้าร่วมกับนิกายโลกวิญญาณ และเขาจะไม่ทิ้งโอกาสที่ดีเช่นนี้ไป
ในตอนนี้ หลังจากที่การสอบสิ้นสุดลง ทุกคนจึงมารวมตัวกันภายในนิกายโลกวิญญาณ แต่ ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ นั้นยังคงรออยู่ดานนอก เมื่อคิดได้เช่นนั้น ตั้งแต่เริ่งการสอบ’ชูเฟิง’จึงรู้สึกเป็นกังวลขึ้น ว่าอาจารย์ของเขาจะเป็นห่วง เขาจึงกล่าวขึ้นว่า
“พี่กู๋โบ่ ท่านอาจารย์ของข้ายังรออยู่ที่ด้านนอกของนิกายโลกวิญญาณ ข้าต้องการที่จะ…….”‘กู๋โบ่’ กล่าวขณะยิ้ม พลางดึงตัวของ’ชูเฟิง’ให้นั่งลงที่เก้าอี้
“น้องชูเฟิง เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ ในตอนนี้ได้มีคนไปส่งคำเชิญถึงท่านอาจารย์ของเจ้าแล้ว อีกไม่ช้าเจ้าจะได้พบกับท่าน”
ในเวลาเดียวกันนั้น ที่ด้านนอกของนิกายโลวิญญาณ ในเมืองที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษสำหรับเป็นที่พักของคนนอก ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ ยังคงยืนรออย่างใจจดใจจ่อที่หน้าประตู
“เจ้าเคยได้ยินชื่อของเด็กหนุ่มที่ชื่อว่า ชูเฟิง หรือไม่ ในการทดสอบครั้งนี้ เขาได้ขึ้นไปถึงหอคอยอสูรฟ้าชั้นที่ 6 และกลับออกมาพร้อมกับผลจิตวิญญาณที่สุกงอม”‘จูเก่อ หลิวหยุน’ ที่กำลังยืนรอ’ชูเฟิง’อยู่นั้น เมื่อเขาได้ยินการสนทนาแบบปากต่อปาก ของเหล่าผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดคลุมสีขาวนั้น หัวใจของเขาก็แทบจะโดดออกมาข้างนอก ดังนั้นเขาจึงเดินเข้าไปสอบถาม
“ข้าได้ยินมาว่า เขาเป็นเด็กหนุ่มที่มีอายุเพียง 15 ปี การบ่มเพาะพลังของเขาอยู่ในระดับ 1 ขั้นกำเนิดวิญญาณ ความแข็งแกร่งของเขานั้นช่างน่าประทับใจ ตามข่าวลือ แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับ 5 ของขั้นกำเนิดวิญญาณ ก็ไม่อาจเอาชนะเขาได้”
“ใช้แล้ว เหล่าอัจฉริยะรุ่นใหม่ของตระกูลเจี่ย และ เจี่ยปู้ฟาน ก็ถูกเขาจัดการทั้งหมด”
“ด้วยเหตุที่ว่าสมาขิกของตระกูลเจี่ยนั้น พ่ายแพ้ให้แก่เขา ตระกูลเจี่ยจึงไม่คิดที่จะยกโทษให้กับเขา และจะต้องแก้แค้นเขาให้ได้”
“เจ้ายังไม่เข้าใจ หลังจากที่เขาได้แสดงความสามารถออกมา เขาก็ถูกกำหนดไว้แล้วว่าเขาจะต้องเป็นอัจฉริยะอย่างแน่นอน อีกทั้งนิกายโลกวิญญาณยังให้คำสัตย์ว่าจะปกป้องเขา ในตอนนี้เขาได้รับคำเชิญให้เป็นแขกพิเศษจากนิกายโลกวิญญาณ แม้แต่ตระกูลเจี่ยก็ไม่อาจแตะต้องเขาได้”
“สหาย !! ชูเฟิงที่ท่านกล่าวถึงนั้น มาจากอาณาจักรมังกรฟ้าหรือเปล่า !?”ผู้แปล โดยคุณ#
อาจจะใช้เวลาไปบ้าง แต่เราก็จะพยายามทำผลงานให้ออกมาดี
ที่มา: